9/18/2555

ช็อกโกแลตซีสต์ เรื่องที่ผู้หญิงควรรู้


ช็อกโกแลตซีสต์ ในทางการแพทย์เรียกว่า endometriotic cyst เป็นอาการแสดงออกในรูปแบบหนึ่งของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่หรือ endometriosis โรคนี้พบได้บ่อยมากในผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์หรือวัยที่ยังมีประจำเดือนนั่นเอง

เกิดจากสาเหตุใด?

ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของโรคนี้แม้จะมีข้อมูลจากงานวิจัยมากมาย แต่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการไหลย้อนกลับของเลือดประจำเดือนเข้าไปในอุ้งเชิงกราน ทำให้เกิดการฝังตัวของเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกเข้าไปในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะรังไข่ แล้วเกิดกลายเป็นซีสต์หรือพังผืดได้ ในคนที่มีภูมิคุ้มกันปกติจะสามารถกำจัดเซลล์เหล่านี้ได้ แต่ในคนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์หรือสภาวะแวดล้อมที่ไม่ปกติก็จะไม่สามารถทำลายเซลล์เหล่านี้ได้ และเกิดการเจริญของเซลล์ผิดปกตินี้ในที่สุด

อาการและการแสดงออกเป็นอย่างไร?

เนื่องจากการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติหรือผิดตำแหน่งมักจะเกิดกับอวัยวะอุ้งเชิงกราน อาการที่นำมาจึงเกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ ได้แก่

  • อาการปวดประจำเดือน มักมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน จนกระทั่งการใช้ยาแก้ปวดไม่ได้ผล ในบางรายอาจปวดมากจนต้องฉีดยาแก้ปวดก็มี นอกจากนี้อาการปวดท้องน้อยเรื้อรังหรืออาการเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ในช่วงใกล้ประจำเดือนก็อาจเป็นอาการของโรคได้เช่นกัน
  • ภาวะมีบุตรยาก เกือบ 1 ใน 5 รายของสตรีที่มีบุตรยากพบโรคนี้ร่วมด้วย เชื่อว่าการฝังตัวของเซลล์ที่ผิดปกติทำให้เกิดพังผืดไปขัดขวางการปฏิสนธิ หรืออาจสร้างสารบางอย่างที่ทำให้ไม่เหมาะสมต่อการตั้งครรภ์
  • ซีสต์รังไข่ เป็นตำแหน่งที่พบบ่อยที่สุด โดยเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกที่ไหลย้อนออกมาในอุ้งเชิงกรานจะฝังตัวที่รังไข่และสร้างเลือดประจำเดือนและกลางเป็นถุงน้ำ เมื่อเวลาผ่านไปเลือดในถุงน้ำจะข้นจนมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลคล้ายช็อกโกแลต จึงทำให้เรียกติดปากกันไป ถ้าขนาดไม่ใหญ่มาก เช่น น้อยกว่า 5 เซนติเมตร ผู้ป่วยส่วนมากจะยังไม่มีอาการ ต่อมาเมื่อมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือมีพังผืดมาเกาะจึงอาจมีอาการปวดได้ ในกรณีที่โชคร้ายซีสต์หรือถุงน้ำแตกออก ทำให้เลือดในถุงกระจายไปในช่องท้อง เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงคล้ายไส้ติ่งแตก


แพทย์จะวินิจฉัยอย่างไร?

เมื่อไปพบแพทย์ แพทย์จะอาศัยประวัติที่ทำให้สงสัยโรคนี้ ร่วมกับการตรวจภายในและอัลตราซาวนด์ แต่การวินิจฉัยที่แน่นอนต้องอาศัยการตรวจทางพยาธิหรือนำชิ้นเนื้อไปตรวจ ซึ่งอาจทำได้ทั้งการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง หรือการผ่าตัดผ่านกล้อง กรณีเป็นถุงน้ำแพทย์จะต้องแยกโรคจากถุงน้ำชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะถุงน้ำที่เกิดจากเนื้อมะเร็ง โดยช็อกโกแลตซิสต์เองพบน้อยที่จะเกิดร่วมกับโรคมะเร็ง

ขอบคุณข้อมูลจาก HealthToday : นพ.ชำนาญ แท่นประเสริฐกุล สูตินรีแพทย์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

การเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของหน้าอก ที่พึงระวัง

สาวๆทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจหามะเร็งเต้านม คือการคลำหน้าอกด้วยตนเองทุกเดือน เพราะในรายที่ยังอายุน้อย การตรวจด้วยแมมโมแกรมก็อาจไม่ช่วยอะไร เนื่องจากเนื้อหน้าอกยังหนา แต่เนื่องจากมีซีสต์ (ถุงน้ำ) และก้อนไขมันที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายเกิดขึ้นบ่อย หลายครั้งจึงสร้างความวิตกจริตให้กับสาวๆที่คลำเจอว่า ก้อนเนื้อไหนกันแน่ที่อันตราย ต่อไปนี้คือข้อสังเกตของมะเร็งตัวร้าย แต่เพื่อความแน่ใจถ้าคลำเจอก้อนเนื้อ ควรไปพบแพทย์ดีกว่าคะ
  • เปลี่ยนขนาดอย่างรวดเร็ว ถ้าเคยคลำเจอเมื่อเดือนก่อนยังขนาดเล็ก แต่พอคลำเจอเดือนนี้กลับเพิ่มขนาด คุณต้องเฝ้าระวังแล้วล่ะ เพราะก้อนเนื้อที่ไม่เป็นอันตรายหรือถุงน้ำ มักไม่เพิ่มขนาด แต่มะเร็งจะขยายขนาดขึ้นจากเดิม
  • ·ก้อนเนื้อแข็ง แม้ว่าจะไม่เสมอไปที่ก้อนเนื้อมะเร็งจะแข็ง แต่โดยส่วนใหญ่จะแข็งกว่าก้อนเนื้อที่ไม่เป็นอันตราย และก้อนเนื้อมะเร็งมักทำให้ผิวหน้าอกขรุขระ กลายเป็นเปลือกส้มเนื้อจากก้อนเนื้อรั้ง บางรายถูกรั้งจนหัวนมบุ๋มเข้าไป ไม่เคลื่อนที่ ก้อนมะเร็งมักยึดติดกับผิวหนัง ไม่เคลื่อนที่เหมือนถุงน้ำหรือก้อนไขมัน 
  • ขอบขรุขระ ขอบหรือก้อนเนื้อร้ายมักไม่เรียบ ขรุขระ และเมื่อกดลงไปมักไม่รู้สึกเจ็บอาการอื่นที่พึงระวัง หน้าอกเปลี่ยนขนาดและรูปร่าง มีของเหลวไหลออกจากหัวนม มีผดขึ้นบริเวณรอบหัวนม และเจ็บหน้าอก

ขอบคุณข้อมูลจาก Cosmopolitan –ศูนย์รังสีวิจัย “รัชวิภา ดิจิตอล แมมโมแกรม”

8/28/2555

เมื่อลูกเริ่มแปรงฟันด้วยตัวเอง

เด็กอายุ 6-7 ปี สามารถแปรงฟันด้วยตัวเองได้แล้ว พ่อแม่ควรปล่อยให้เด็กแปรงฟันเอง แต่ต้องอย่าลืมดูความสะอาดหลังการแปรงฟันด้วย เพราะเด็กอาจแปรงไม่ทั่วถึง  สำหรับแปรงสีฟันในเด็กเล็ก พ่อแม่ควรเลือกแปรงที่มีหัวตรง ขนาดเหมาะสมกับช่องปากของเด็ก ขนแปรงนุ่มและหน้าตัดเรียบ และมีด้ามจับขนาดพอเหมาะเพื่อให้เด็กจับได้ถนัดมือ

การเลือกยาสีฟันที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ทันตแพทย์มักแนะนำให้เลือกใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุได้ดี สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ปี ซึ่งมีโอกาสที่เด็กจะกลืนยาสีฟันได้สูง ควรเลือกซื้อยาสีฟันที่มีปริมาณของฟลูออไรด์ประมาณ 500ppm.

ปัจจุบันยาสีฟันสำหรับเด็กที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมักจะมีสี กลิ่นและรสหอมหวาน เพื่่อดึงดูดให้เด็กๆ ชอบ แต่หากเด็กชอบกลืนยาสีฟันจะส่งผลให้ฟันแท้ที่ขึ้นภายหลังมีรอยขุ่นขาวไม่สวยงาม เป็นรอยด่างที่เรียกว่าฟันตกกระได้ ดังนั้นในเด็กที่ยังเล็กพ่อแม่ควรบีบยาสีฟันให้เพียงเล็กน้อย ขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวหรือน้อยกว่า แต่ถ้าเด็กยังควบคุมการกลืนยาสีฟันไม่ได้ ก็ยังไม่ควรให้ใช้ยาสีฟัน

ขอบคุณข้อมูลจาก Health plus@city
ภาพประกอบ จากอินเทอร์เน็ต

8/23/2555

Brain Booster


Brain Booster
ผักผลไม้บำรุงสมอง


Blueberry
บลูเบอร์รี่ ผลไม้เมืองหนาวตระกูลเบอร์รีสีม่วงแดง เมื่อผลแก่จะมีสีน้ำเงินครามเมื่อสุขเต็มที่ และมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว มีสรรพคุณช่วยบำบัดอาการอัลไซเมอร์ เพราะสารต้านอนุมูลอิสระในบลูเบอร์รี่มีส่วนเชื่อมโยงกับการพัฒนาสมอง ชะลอความแก่ และส่งผลให้เกิดความจำดีนั่นเอง
ผลบลูเบอร์รี่นี้ถูกจัดว่าเป็นยอดผลไม้ชนิดใหม่ เนื่องจากมีความอร่อยที่มาพร้อมประโยชน์มากมาย เห็นได้จากปัจจุบันนี้เรามักจะนำบลูเบอร์รีมาประกอบในเมนูของหวานต่างๆมากมาย อย่างเช่น พายบลูเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก บลูเบอร์รี่ชีสพาย หรือแม้แต่นำมาทำเป็นแยม ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหนคุณประโยชน์ของบูลเบอร์รี่ก็ยังคงอยู่ครบถ้วนค่ะ( ข้อมูลสินค้า


Strawberry
สตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้โบราณที่มีต้นกำเนิดมาจากยุคโรมัน ซึ่งคำว่า “straw” เป็นคำในภาษาอังกฤษที่มีความหมายว่า กระจัดกระจายไปตามพื้นดินนั่นเอง สตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับเซลล์ประสาท และยังมีไอโอดีนที่เป็นตัวช่วยให้ระบบประสาทกับสมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ห่างไกลโรคอัลไซเมอร์ วิตามินที่มีในผลสตรอเบอร์รี่เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ดังนั้นหากต้องการสารอาหารครบถ้วนก็ควรกินผลสดๆ จะได้ประโยชน์มากกว่า


Acai Berry
“อาไซอิเบอร์รี่” ฟังดูคล้ายกับชื่อญี่ปุ่นก็จริง แต่แหล่งที่มาของมันนั้นกลับอยู่ในแถบอเมซอน (เบลีช บราซิล เปรู) ซึ่งในแถบนั้นมีชื่อเรียกเป็นที่รู้จักกันดีคือ “Euterpe oleracea” อาไซอิเบอร์รี่เป็นพืชตระกูลปาล์ม ลักษณะผลคล้ายอินทผลัม มีสีม่วงเข้มไปจนถึงดำ เบอร์รี่ชนิดนี้นับว่าเป็นผลไม้ในไม่กี่ชนิดที่มีสารแอนโทไซยานินส์ (Anthocyanins) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระในระดับสูงสุด (Super Anti-oxidants) ที่มีคุณสมบัติในการต้านความเสื่อมของร่างกายและความชรา ดังนั้นเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ แล้วอาไซอิเบอร์รี่จึงนับว่าเป็นผลไม้ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในการช่วยให้คุณย้อนวัยได้ค่ะ

8/05/2555


เคล็ดลับขจัดอารมณ์เหวี่ยง
ดร.จิตรา ดุษฎีเมธา

ผู้คนในสังคมมีอารมณ์ท้อแท้  โกรธ  โทษ พาลมาจากภาวะอุทกภัยส่งผลต่อการใช้ชีวิตความเป็นอยู่  ส่งต่อถึงอารมณ์ท้อแท้ โกรธ โทษ พาล ซึ่งเป็นภาวะทางอารมณ์ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน โดยพบกับเหตุการณ์ทางลบที่เข้ามาคุกคามชีวิตอย่างคิดไม่ถึง ตั้งรับไม่ทัน หรือไม่ตอบสนองต่อความต้องการตามความคิดของตนเองจึงทำให้ ที่ทำให้เกิดการเสียขวัญหรือขวัญผวา  (trauma)

เพราะสัญชาตญาณของมนุษย์  ต้องการหลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นทุกข์  แสวงหาหรืออยากอยู่กับความสุข หรือความคุ้นชิน ใช้ชีวิตเป็นปกติอย่างที่เคยเป็นมา คนสูญเสียหรือมีอาการเสียศูนย์ มีกลไกการแสดงออกทางอารมณ์ด้านลบ เป็น 2 ด้าน คือสู้หรือหนี (fight or flight ) หากไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้และ ไม่สามารถปล่อยวาง เมื่อหาทางออกไม่ได้ จึงใช้การกล่าวโทษกัน พาลผู้อื่นและหาทางออกไม่ได้

การหาทางออกที่ดีคือการให้กำลังใจ   ภาวะอารมณ์เช่นนี้  จะเริ่มเบาบางลง  เมื่อเริ่มรับสภาพกับความเป็นไปนั้นๆ ได้ พร้อมไปกับการตั้งสติหาทางออกของปัญหาด้วยวิถีแห่งปัญญา  ที่เรียกว่า การปรับตัวต่อสถานการณ์ได้  เพราะอารมณ์ทุกอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นทางบวกหรือทางลบ  เมื่อเข้ามาแล้วมันก็มีทางไปจากเรา หากไม่จดจ่อหรือเอาตนเองไปอยู่ในเหตุการณ์เดิมๆ  ซ้ำๆ  อยู่นานๆ  เมื่อเปลี่ยนบรรยากาศ  เปลี่ยนเรื่อง  เปลี่ยนสถานที่  เปลี่ยนหัวข้อ อารมณ์จะมีการสลับปรับเปลี่ยน และพอจะประคับประคองให้ค่อยๆ ดีขึ้นได้ 

“แต่หากจมอยู่กับสถานการณ์ที่เป็นปัญหาอย่างหมดปัญญา ย้ำกับตัวเองว่า “หมดแล้ว” “ไม่เหลืออะไรแล้ว”  “ทนไม่ไหวแล้ว” หรือพยายามกักอารมณ์ขุ่น และกวนขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วยการพูดจาซ้ำๆ วกวน เรื่องเดิมๆ ในแง่ลบแง่ร้าย หรือเติมเชื้อให้เพิ่มขึ้น ด้วยการเสียดสี ประชดใครต่อใครที่เรามองว่ามันเป็นปัญหา จะยิ่งเพิ่มความรุนแรงทางอารมณ์ให้ทวีคูณขึ้นมา  เพราะการรับฟัง รับภาพด้านลบ ในขณะที่จิตตก  อารมณ์ร้าย ความคิดแย่  จะเกิดทะลักจากการท่วมท้นทางอารมณ์จนเกินแรงต้าน จึงทำให้ยิ่งเตลิด  ขวัญหนีดีฝ่อ กระตุ้นให้อารมณ์ลบแสดงออกมาเรื่อยๆ  และแรงขึ้น เพราะมัวแต่วนเวียนอย่างวกวนกับการจดจ่อกับเรื่องแย่ๆ  จนกลายเป็นความเครียดที่ต้องระเบิดออกมาเป็นการเสียดสี ด่าทอ จับผิด จนเกิดการทะเลาะกัน เพราะความเห็นไม่ตรงใจฉัน และจุดฉนวนทำให้เกิดความขัดแย้ง  และแตกแยกได้ จากเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่  จากเรื่องไม่เป็นเรื่อง ถูกขยายให้เกิดเรื่อง”


ความคิดเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดสติ  และเสียสติได้  การตั้งต้นที่ดีในตอนนี้ทางด้านความคิด  ถ้าให้เรา พูดเพื่อระบายอารมณ์เสีย หรือพูดวิจารณ์กันในแต่ละครั้ง  เมื่อเริ่มรู้ตัวว่า ยิ่งพูด อารมณ์ยิ่งปะทุมากขึ้น ให้หยุด ไม่ควรพูดต่อเพื่อความสะใจ ทั้งที่รู้สึกสะเทือนใจ แต่ขอให้คนในสังคมใส่คำพูดที่มีความหวังต่อกัน แทนคำพูดหมดหวัง หรือการจบการพูดคุยกันด้วยคำพูดการประคองใจกันไปให้ได้  ให้เกิดเป็นความรู้สึกร่วมด้านบวก พร้อมจะสู้ชีวิตสู้ต่อไปได้

เช่น  “หากเราช่วยกัน  เราจะร่วมกันฝ่าฟันไปได้”  “ สู้ สู้”   “วิกฤตนี้  ไม่ใช่เราคนเดียวที่ต้องเจอ”  “เราจะมัวแต่รอไม่ได้  ต้องช่วยตัวเองและช่วยกันก่อนในสิ่งที่เราสามารถทำได้”  “ใจเย็นๆ  ใจเย็นๆ”  “เป็นกำลังใจซึ่งกันและกันนะ”


ถ้าต้องพูดกับคนที่มีความคิดในแง่ลบ ขอให้เราเปลี่ยนเรื่องพูดป็นแง่บวกทันที  อย่าไปพูดสนับสนุนความคิดลบของเขา ต้องรู้จักให้กำลังใจตนเอง และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และต้องรู้จัก ตัดอารมณ์ด้านลบออกไปอย่างรู้ตัวเช่นนี้  จะช่วยบรรเทาความรู้สึก อีกทั้งทำให้อารมณ์ดีขึ้น และรู้สึกว่าชีวิตยังมีทางออก มีความหวัง โดยที่ตัวเรายังพอจะทำอะไรได้  ไม่ใช่มัวแต่รอ มัวแต่รับ หรือเอาแต่จับผิดหรือขัดขา  ขัดแย้ง โทษกันไปกันมา อย่างไม่จบสิ้น จนกลายเป็นปัญหาสานต่อปัญหามากขึ้น แทนที่ปัญหามา จะก่อเกิดปัญญา ก่อเกิดความหวัง และพร้อมจะก้าวไปข้างหน้า ยิ่งทวีปัญหาเพิ่มพูนมากขึ้น 

การรักษาจิตใจให้กลับคืนมาสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด  หรือการทำให้ขวัญกลับคืนมาอยู่กับตัวเองได้ และพร้อมสิ่งที่จะทำให้เราเดินหน้าต่อไปได้   ต้องพูดให้กำลังใจคืนกลับมาสู่จิตใจโดยเร็ว  ความคิดด้านบวกก็ยิ่งเกิดขึ้นเร็ว  ทำในสิ่งที่พอจะจัดการได้  ช่วยกันส่งข้อมูลสร้างสรรค์ และทำอะไรได้ ให้เกิดประโยชน์

ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์